ขออนุโมทนาในการที่อาจารยไดนิมนตอาตมาทั้งสองในนามของพระสงฆมารับสังฆทาน ซึ่งอาจารย์ไดจัดถวายรวมกับญาติพี่นองเปนการทําบุญแทนคุณพอ ในขณะที่ทานเจ็บไขไดปวยโดยมีความระลึกถึงทานมีจิตใจที่รักและมีความผูกพัน ตอทาน หวังจะใหทานหายจากความเจ็บปวยนี้
ในฐานะที่เปนพุทธศาสนิกชนสิ่งที่จะเปนเครื่องบํารุงจิตใจที่สําคัญ ก็คือการทําบุญการที่ไดมาใกลชิดพระรัตนตรัย ไดอาศัยอานุภาพบุญกุศลและอาศัยพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ เปนเครื่องอภิบาลรักษา
ในยามเจ็บไขไดปวยซึ่งเปนเวลาที่สําคัญนี้เรื่องของจิตใจก็สําคัญมาก ทั้งจิตใจของผูปวยและ จิตใจของญาติ ตลอดจนทานที่มีความเคารพนับถือ ซึ่งพากันหวงใย การรักษานั้นก็ตองรักษาทั้งสอง อยาง คอืทั้งกายและใจ
สวนที่เปนโรคอยางแทจริง ก็คือดานรางกาย แตในเวลาที่รางกายเปนโรคนั้น จิตใจก็มักพลอยปวยไปดวย คือ จิตใจอาจจะออนแอลง หรือ แปรปรวนไป เพราะทุกขเวทนา หรือความออนแอ ของรางกายนั้น จึงมีพุทธพจนที่ตรัสสอนไว ใหตั้งจิตตั้งใจวา ถึงแมรางกายของเราจะปวย แตใจของเราจะไมป่วยไปดวย พระพุทธเจาตรัสสอนไวอยางนี้ เพื่อใหสวนหนึ่งแหงชีวิตของเรายังคงความเขมแข็งไวได แลวใจก็จะชวยรางกายดวย
ถาหากวาใจพลอยปวยไปดวยกับกาย ก็จะทําใหความปวยหรือความเจ็บนั้นทับทวีขึ้นซ้ําเติมตัวเอง แตถากายปวยเปนเพียงสวนหนึ่ง ใจไมปวยไปดวย ใจนั้นจะกลับมาเปนสวนชวยดึงไวชวยอุม ชูค้ำประคับประคองกายไว ยิ่งถามีกําลังใจเขมแข็ง ก็กลับมาชวยใหรางกายนี้แข็งแรงขึ้น
เราจะเห็นวาในเวลาที่เจ็บไขไดปวยนี้คนไขจะตองการกําลังใจมาก ถาไมสามารถจะมีกําลังใจ ดวยตนเองก็ตองอาศัยผูอื่นมาชวย ผูที่จะชวยใหกําลังใจไดมากก็คือญาติพี่นองคนใกลชิดทั้งหลาย เพราะฉะนั้นทางพระหรือทางธรรมจึงไดสอนผูที่ใกลชิดใหมาใหกําลังใจแกผูที่เจ็บไขไดปวย
ขอสําคัญก็คือวา ผูที่เปนญาติของทานผูที่เจ็บไขไดปวยนั้น มีความรักมีความหวงใยตอทานผูเจ็บ ไข เมื่อเปนอยางนี้จิตใจของผูใกลชิดที่เปนญาตินั้น บางทีก็พลอยปวยไปดวยพลอยไมสบายไปดวย เลยไมสามารถจะไปใหกําลังใจแกทานที่เจ็บปวย อันนี้กเ็ปนเรื่องที่สําคัญ จึงจะตองมีวิธีการที่จะทําให จิตใจเขมแข็ง ใหจิตใจสบาย
เมื่อจิตใจของเราที่เปนญาติเปนผูที่ใกลชิดที่หวังดีนี้เขมแข็งสบายดี ก็จะไดเปนเครื่องชวยใหทานผูเจ็บปวยนั้น พลอยมีความเขมแข็งยิ่งขึ้นดวย ในยามเชนนี้การวางจิตใจจึงเปนเรื่องสําคัญ
เรื่องการรักษาทางดานรางกายนั้นก็เปนภาระของแพทย ที่จะพยายามจัดการแกไขไปตามวิชาการตามหลักของการรักษา แตทางดานญาติของผูปวยตองถือดานจิตใจนี้เปนเรื่องสําคัญ นอกจากการที่จะคอยเอื้ออํานวยใหความสะดวก และการดูแลทั่วๆไปแลว สิ่งที่ควรทําก็คือ การรักษาทั้งจิตใจของตนเองและจิตใจของผูปวยใหเปนจิตใจที่เขมแข็ง
ในดานจิตใจของตนเองก็ควรใหมีความปลอดโปรงสบายใจ อยางนอยก็มีความสบายใจวา เมื่อทานผูเปนที่รักของเราปวยไขเราก็ไมไดทอดทิ้งทาน แตเราไดเอาใจใสดูแลรักษาอยางเต็มที่ เมื่อไดทําหนาที่ของเราอยางเต็มที่แลวก็สบายใจได ประการหนึ่งแลววา เราไดทำหนาที่ของตนเองอยางดีที่สุด
เมื่อไดทําหนาที่ของตนเองแลวก็มีความสบายใจขึ้นมา ความเขมแข็งที่เกิดจากความสบายใจนั้น ก็จะมาคอยชวยคอยเสริมคอยใหกําลังใจไมวาทานผูเจ็บปวยจะรูตัวหรือไมก็ตาม
คนเรานั้น เรื่องจิตใจเราทราบไมได บางทีรูในทางประสาทสัมผัสไมได แตมีความซึมซาบอยู ภายใน แมแตคนที่ไมรูตัวแลวในบางระดับก็ยังมีการฝนบางยังมีความรูสึกรับรูเล็กๆนอยๆบางทีเปนความละเอียดออนในทางการรับสัมผัสตางๆในทางประสาทในทางจิตใจ จึงอาจจะไดรับรัศมีแหงความสุขสบายใจ ทําใหมีกําลังใจขึ้นมาอยางนอยก็ทําใหไมมีหวงมีกังวลใจก็จะเขมแข็งขึ้น ความปลอดโปรง ความสบายใจ จิตใจที่ผองใสเบิกบานน เปนสิ่งที่ดีงาม
คนเรานั้นเรื่องจิตใจเปนสิ่งสําคัญอยางที่ไดกลาวมาแลว การที่ลูกๆหลานๆ ผูที่ใกลชิดมาคอย เอาใจใสดูแล ถึงกับไดสละการงานอะไรตางๆ มาก็เพราะจิตใจที่มีความรักกันมีความหวงใยกันนี่ แหละ แตในเวลาเดียวกันนั้นเอง เพราะความรักและความหวงใยกันนี่แหละ ก็อาจจะทําใหจิตใจของเรานี้กลายเปนจิตใจที่มีความเรารอนกระวนกระวายไปไดเหมือนกัน สิ่งที่ดีนั้นบางทีก็กลับเปนปจจัยใหเกิดความทุกขอยางที่ทางพระทานบอกวาความรักทําใหเกิดความทุกขเพราะวาเมื่อรักแลวมีความผูกพัน ก็ทําใหมีความกระทบกระเทือนเกิดขึ้นไดงาย
ทีนี้ ทําอยางไรจะใหมีความรักดวย และก็ไมมีทุกขดวย ก็ตองเปนความรักที่ประคับประคองทําใจ อยางถูกตอง เมื่อทําไดถูกตองแลวก็จะไดสวนที่ดีเอาแตสวนที่ดีไวใหมีแตสวนที่เปนความดีงาม และ ความสุขความรักนั้นก็จะเปนเครื่องชวยใหเกิดความผูกพัน แลวก็ทําใหมาเอาใจใสดูแลกัน แลวทีนี้ความรักที่เราประคับประคองไวดีก็จะทําใหจิตใจปลอดโปรงผองใสเปนไปในแงที่ทําใหเกิดกําลังในการชวยเหลือซึ่งกนัและกัน
ฉะนั้น จึงควรพิจารณาทําใจอยางที่กลาวเมื่อกี้วา เราไดทําหนาที่ของเราถูกตองหรือไม สํารวจ ตัวเอง เมื่อทําหนาที่ถูกตองแลวก็พึงสบายใจในขั้นที่หนึ่ง ตอแตนั้นก็มองในแงที่วาการที่จะไมสบายใจ หรือมีความรูสึกทุกขโศกอะไรนี้ไมสามารถชวยทานผูที่เจ็บไขนอนปวยอยูได สิ่งที่จะชวยไดก็คือขวัญ หรือกําลังใจที่ดีและความปลอดโปรงเบิกบานผองใส
แมแตในสวนของตัวเราเอง การที่จะคิดอะไรไดปลอดโปรงคลองแคลว ก็ตองมีจิตใจที่สบายสงบ ดวย ถามีความกระวนกระวาย เชนความกระสับ กระสายทางกายก็ตาม ทางใจก็ตามก็จะทําใหคิดอะไรไมคลอง และก็จะทําอะไรไมถูกตองดวย ถาจะทําใหไดผลดีก็ตองมีจิตใจที่สงบและเขมแข็งปลอดโปรง มีความเบิกบานผองใส จึงจะทําใหเกิดเปนผลดี
เพราะฉะนั้น หลักการสําคัญก็คือ ใหสวนที่ดีนำมาซึ่งสวนที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป คือความรักที่มีตอคุณพอ ที่เจ็บไขไดปวยนั้นเปนสวนที่ดีอยูแลว จึงควรใหเกิดความเบิกบานผองใสของจิตใจ แลวก็เอาจิตใจที่ดี งามนี้มาคิดไตรตรองพิจารณาในการที่จะคิดแกไขสถานการณ ในการที่จะจัดการดูแลเอาใจใสดําเนิน การรักษาตางๆ ตลอดจนทําสภาพจิตใจของตนใหเปนจิตใจที่จะชวยเสริมใหจิตของทานผูปวยไดมี ความสบายใจ
สมมติวา ทานผูปวยไดทราบถึงลูกหลานที่กําลังหอมลอมเอาใจใสคอยหวงใยทานอยู ทานก็จะ รูสึกวาลูกหลานรักทาน และทานก็จะมีกําลังใจพรอมกับมีความสุขขึ้นมาสวนหนึ่ง ในเวลาเดียวกันถาลูกหลานทั้งหมดนั้นมีจิตใจที่สบาย ทานก็จะไมตองหวงกังวลก็จะเปนเครื่องชวยใหจิตใจของทานสบายดวย เมื่อทานมีจิตใจที่สบายมีกําลังใจที่เขมแข็งก็จะเปนเครื่องชวยในการรักษารางกายของทานอีกดวย
โดยเฉพาะในตอนนี้ นอกจากจะพยายามทําใจ หรือคิดพิจารณาไตรตรองใหจิตใจเขมแข็งแลว ก็ยังไดอาศัยอานุภาพของบุญกุศลและพระรัตนตรัยชวยเหลืออีกดวย กลาวคือในขณะนี้เราไมใชอยูเฉพาะตัวลําพังจิตใจผูเดียวเทานั้น แตยังมีอานุภาพของบุญกุศลชวยหลอเลี้ยงดวย อาจารยและคุณพี่และญาติทุกคนมีความหวงใยรักในคุณพอ และก็ไดทําบุญแทนคุณพอแลว จึงขอใหอานิสงสอานุภาพของบุญกุศลที่ไดทํานี้ จงเปนเครื่องชวยเสริมกําลังใจของทานดวย โดยเฉพาะขอใหทุกทานตั้งใจรวมจิตไปที่ตัวคุณพอขอใหอานุภาพแหงบุญนี้เปนเครื่องบํารุงหลอเลี้ยงรักษาตัวทาน
เมื่อมีการทําบุญก็จะมีการที่ไดบูชาเคารพพระรัตนตรัย พระรัตนตรัยนั้นเปนสิ่งยึดเหนี่ยวที่ลึกซึ้งที่สุดในทางจิตใจ เมื่อเราเขาถึงพระรัตนตรัยแลว จิตใจก็จะมีความเขมแข็งมีกําลังมีความสงบมีความรมเย็นเกิดขึ้น ก็ขอใหความรมเย็นนี้เปนบรรยากาศที่แวดลอมหมูญาติทั้งหมดพรอมทั้งคุณพอชวยประคับประคองหลอเลี้ยงใหทานฟนขึ้นมา โดยมีความเขมแข็งทั้งในทางกายและทางจิตใจ
ในโอกาสนี้ อาตมาขออนุโมทนาอาจารยพรอมทั้งคุณพี่และญาติทั้งปวงที่ไดทําบุญถวายสังฆทานแดพระสงฆซึ่งเปนเครื่องที่จะทําใหเกิดความดีงามแหงจิตใจหลอเลี้ยงจิตใจใหเกิดความสดชื่นผองใส มีความสุขมีความปลอดโปรงเบิกบานและมีความสงบ ก็ขอใหจิตใจที่เบิกบานมีความเย็นมีความสงบนี้ นํามาซึ่งผลอันเปนสิริมงคล คือ ความสุข และความฟนฟู พรั่งพรอมดวยสุขภาพทั้งกายและใจตอไป
ตอแตนี้ไป ขอเชิญรับพรและขอใหเอาใจชวย คุณพอ ขอใหทานไดอนุโมทนารับทราบ และขอให ทุกทานไดชวยกันสรางบรรยากาศแหงความสงบ ความแชมชื่นเบิกบานผองใสยิ่งๆ ขึ้นไป
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น