วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

รู้ทางหยุดอกุศลธรรม

           ตอนกำลังสบายใจคุณจะไม่อยากพูดเรื่องน่ารำคาญใจ  ตอนจิตกำลังเป็นกุศลคุณจะไม่อยากคิดเรื่องที่เป็นอกุศล 
           แต่โลกนี้ไม่ปล่อยให้คุณสบายใจได้นานนัก แล้วก็ไม่มีสถานที่ที่อยู่แล้วเกิดแต่กุศลจิตได้ตลอด ความสบายใจและจิตที่เป็นกุศลจึงต้องจุดชนวนขึ้นจากข้างในไม่ใช่ข้างนอก 
           หมายความว่า ต้องตั้งใจสร้าง ไม่ใช่ปล่อยใจรอ! 
         เมื่ออยู่กับคนอื่น ถ้า‘อยากพูด’เรื่องน่ารำคาญใจให้ตั้งใจพูดเรื่องอื่นที่ทำให้สบายใจกว่า  แต่ถ้าจำเป็นต้องพูดเรื่องน่ารำคาญใจให้ตั้งใจพูดสั้นที่สุด 
          แม้ถ้าคุณอยากพูดสั้น   แต่คนอื่นหาเรื่องต่อความยาวสาวความยืด ก็อย่าได้เห็นเป็นข้ออ้างต้องไหลตามนั้น คุณต้องสั่งให้ตัวเองสะสม‘พลัง ของผู้พูดอย่างมีเป้าหมำย’ เพิ่มขึ้นทุกวันถ้ามีสมาธิกับเป้าหมำย คุณจะ พูดไปถึงเป้าหมายได้ลัดสั้นและมีพลังเสมอ  แต่ถ้าปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านไปกับคู่สนทนาเล่นตามเกมเขาไม่ให้เขามาเดินตามทางเราสมาธิในการพูดก็จะขาดพลังหรือกระทั่งในที่สุดก็แพ้ ต้องพายเรือในอ่างร่วมกับเขาไป แปลว่าผลไม้ใช้อะไรมากกว่าต้องจมอยู่ในวังวนอกุศลธรรมด้วยกันไปทั้งคู่ 
          เมื่ออยู่กับตัวเอง ถ้า‘อยากคิด’เรื่องอกุศลให้ตั้งใจเปลี่ยนไปคิดถึงเรื่องที่เป็นกุศลแต่ถ้าจำเป็นต้องคิดเรื่องอกุศลให้ตั้งใจคิดเอาข้อสรุปที่เป็นกุศลขึ้นกว่าเดิม 
          แน่นอนว่ำไม่มีทางที่ใครจะคิดแต่เรื่องที่เป็นกุศลได้ตลอดเวลา แค่ฟังบางคนพูดแย่ๆคุณก็อาจแวบนึกอยากตบปากสักเพียะอย่างห้ามไม่ได้ขึ้นมาแล้ว ประเด็นคือเมื่อคิดแย่ๆแล้วคุณ ‘ตั้งใจ’เปลี่ยนเป็นคิดให้ดีได้แค่ไหน  เช่นกำหนดไว้ว่าจะไม่พูดแย่ๆโต้ตอบเขา แต่จะเลือกคำพูดให้เขาสบายใจระคนเกรงใจเขาจะได้ลดอาการอันเป็นอกุศลธรรมลงซึ่งก็ถือเป็นการเพิ่มพลังกุศลธรรมของคุณขึ้นด้วย 
        สรุปแล้วตัว‘ความตั้งใจ’ที่จะสร้างความสบายใจและทำจิตให้เป็นกุศลนั่นเอง คือ‘กรรมทวนกระแส’ 
      ถ้าขาดความตั้งใจก็ไม่มีกรรมดีๆชนิดนี้เกิดขึ้นทุกคนต้องไหลไปด้วย‘กรรมตามกระแส’กันหมด ชีวิตคนส่วนใหญ่จึงตั้งอยู่ในเขตอกุศลธรรมจิดเป็นอกุศลเต็มไปด้วยเรื่องไม่น่าสบายใจกันโดยมากเสร็จแล้วก็ร้องว่า“ทำไม ซวยนัก? ทำไมโชคร้ายตลอด? ทำไมเทวดาไม่ช่วยบ้างเลย?” 
          หากเทวดามีจริงท่านก็น่าจะต้องทำกรรมทวนกระแสไว้มากใช้ชีวิตอยู่ในเขตกุศลก่อนตาย เมื่อเป็นเทวดาก็น่าจะเอ็นดูอยากช่วยคนที่ตั้งใจทำกุศลกรรมเป็นหลัก  ผู้มีบุญเช่นท่านไม่น่าจะต้องเสวยบุญด้วยการมีภาระหน้าที่ต้องเหน็ดเหนื่อยคอยตามช่วยลกคอบรรดา‘คนตามกระแส’ ให้ขึ้นฝั่งเพื่อพ้นจากการไหลบ่าลงหุบเหวนรกเป็นแน่ เพราะถ้าต้องช่วยหมดจำนวนก็หลายพันล้าน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเสวยบุญส่วนตัวกันเล่า?!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น