จริงๆไม่มีใครอยากโกหกซึ่งก็ไม่ใช่เพราะอยากได้โล่ไม่ใช่เพราะอยากตั้งเป้าเป็นคนดีมีศีลสัตย์ แต่เพราะเมื่อโกหกส่วนลึกต้องเป็นทุกข์กับการฝืนความจริง
ในเมื่อรู้แก่ใจว่าความจริงเป็นสิ่งมีพลังเหนือกว่าตนเอง ยิ่งพยายามบิดความจริงให้เบี้ยวมากขึ้นเท่าไรก็เหมือนใจตัวเองถูกบิดให้ผิดเพี้ยนมากขึ้นเท่านั้น!
ความอึดอัดทรมานขณะต้องโกหกพกลมไม่ใช่ของหลอก ทุกคนรู้สึกได้และแสดงออกด้วยท่าทีผิดปกติบางอย่าง อีกทั้งมีสิ่งตกค้างเป็นแรงดันให้ฟุ้งซ่านซัดส่ายผิดปกติหรือไม่ก็เกิดความรู้สึกแย่กับตัวเองคล้ายตอ้งเสียศักดิ์ศรีกล้าเผชิญกับความจริงไม่ได้ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด
แต่มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่พอกพูนบาปให้รู้สึกชินชาได้ถ้าใครใช้ชีวิตมาถึงขั้นเปรี้ยวปากอยากโกหกทุกวันไม่ได้หลอกนิดหลอกหน่อยแล้วเป็นทุกข ์อันนั้นคือจิตสั่งสมความเป็นนักมุสาไว้เต็มขั้นแล้ว
ข้อเท็จจริงก็คือไม่มีความชั่วอื่นใดอีกที่นักมุสาไม่กล้าทำไม่มีบาปอันเป็นเหตุแห่งความเดือดร้อนใดอีกที่นักมุสาทำไม่ได้ ในเมื่อจิตสำนึก‘เพี้ยน’ เกินกว่าจะสำนึกผิดเสียแล้วจะแปลกอะไรหากใจเห็น กงจักรเป็นดอกบัวรู้สึกว่าความชั่วเป็นเรื่องดี!
การไม่มีข้ออ้างเพื่อจะได้มุสาเลยดีที่สุดการตั้งใจไม่มุสาแม้หาไม่ประเสริฐที่สุด แต่หากจะมีเหตุต้องทำเพื่อคนอื่นคุณต้องนับครั้งให้ดีๆ ถ้าเกินสองครั้งสามคราวในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สำรวจใจจะพบนว่าเริ่มเข้าทางเพี้ยนเห็นการพูดปดเป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ต้องหยิกตัวเองเตือนตนให้ได้ว่าจะไม่รู้สึกดีไม่รู้สึกยินยอมเป็นพลพรรคนักมุสาเป็นอันขาด ความไม่ยินดีในการร่วมขบวนนักมุสานั่นแหละเครื่องประกันชั้นดีว่าคุณจะไม่คิดอะไรเพี้ยนๆ เห็นอะไรเพี้ยนๆอย่างที่นักมุสาเขาเป็นกัน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น