เรื่องข้างต้นให้แง่คิดว่าอย่านึกถึงแต่ตัวเองให้นึกถึงคนอื่นบ้าง อย่างไรก็ตามเวลาเกิดปัญหาหรือมีข้อผิดพลาดขึ้นมา แทนที่จะมองหรือเพ่งโทษคนอื่น ควรหันมามองที่ตัวเราเอง มีนิทานจีนเรื่องหนึ่งเป็นนิทานสั้นมากแต่สอนธรรมะได้ดี แต่เล่าจบไปแล้วหลายคนคงงงว่านิทานเรื่องนี้สอนอะไรมีชายตาบอดคนหนึ่งไปเยี่ยมเพื่อนนั่งคุยกันเพลิดเพลิน พอตกค่ำชายตาบอดก็ขอตัวกลับ เจ้าของบ้านจึงยื่นโคมให้ ชายตาบอดถามว่า ให้ เขาทำไม มันไม่จำเป็นเพราะเขาตาบอด เจ้าของ บ้านบอกว่ามันไม่จำเป็นกับคุณจริง แต่ว่ามันช่วยให้คนอื่นเขาเห็นทาง ซึ่งก็ทำให้เขาไม่เดินมาชน คุณชายตาบอดจึงเดินถือโคมกลับบ้าน เดินไปได้ พักใหญ่ก็มีคนมาเดินชน ชายตาบอดโมโหมาก พูดขึ้นว่า “แกตาบอดหรือไง ไม่เห็นโคมของฉัน หรือ” คนที่เดินมาชนพูดตอบว่า “ขอโทษครับ แต่โคมของคุณมันดับไปตั้งนานแล้ว” จบเท่านี้นิทานเรื่องนี้สอนว่าอะไร สอนว่า ข้อแรก เราควรจะนึกถึงคนอื่น ถึงแม้เราตาบอด เราไม่ จำเป็นต้องใช้โคม แต่ควรนึกถึงคนอื่นว่า โคมช่วย ่ส่องทางให้คนอื่นเดินได้สะดวก ซึ่งในที่สุดก็เป็น ประโยชน์ต่อเราเองด้วย เพราะเมื่อเขาเห็นทาง เขาก็ไม่เดินมาชนเรา เพราะฉะนั้นการเอื้อเฟื้อต่อคนอื่นก็มีผลดีกับเราด้วย แต่ไม่ใช่เท่านั้น นิทานเรื่องนี้ยังเตือนใจเราว่า เมื่อเกิดปัญหาหรือความผิดพลาดขึ้น อย่าเพิ่งโทษคนอื่นให้กลับมามองที่ตัวเองก่อน ถ้าเราไม่หันกลับมามองที่ตัวเองเราก็ไม่ต่างจากคนตาบอด โคมของตัวเองดับไปตั้งนานแล้วยังไม่รู้ แต่ไปต่อว่าคนที่เดินชนว่าตาบอดหรือไงคนส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้ใช่ไหม คือเวลาเกิดความผิดพลาดขึ้นมาก็จะโทษคนอื่นก่อน แต่ลืมดูตัวเองนิทานเรื้องนี้สอนได้ดีมากคือว่าเราควรนึกถึงประโยชน์ของผู้อื่น หรือมองจากมุมของคนอื่นด้วย อย่านึกถึงแต่ประโยชน์ของตนเองหรือมอง จากมุมของตัวเองอย่างเดียว ขณะเดียวกันเมื่อเวลาเกิดความผิดพลาดขึ้นมา อย่าเพิ่งโทษคนอื่นให้กลับมาดูตัวเราเองก่อน คนที่ไม่สามารถจะมองเห็นความผิดพลาดของตนเองก็ไม่ต่างจากคนตาบอด ตาบอดในที่นี้ไม่ได้หมายถึงตาเนือ แต่หมายถึงตาใน คือขาดสติ จึงมองไม่เห็นตนเอง คนส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้ บางครั้งความผิดพลาดมีสาเหตุมาจากตนเองแต่มองไม่เห็น มัวเพ่งโทษคนอื่นนี้ก็เป็นเรื่องของความสมดุลอีกอย่างหนึ่ง คือ หมั่นมองจากมุมของคนอื่นด้วย แต่ในเวลาเดียวกันก็ควรหันมามองตนเองเมื่อเกิดความผิดพลาดหรือเกิดปัญหาขึ้นมาพูดง่ายๆว่า มองนอกแต่อย่าลืมมองใน แต่คนส่วนใหญ่ทำตรงข้ามเวลานึกถึงประโยชน์ก็นึกแต่ประโยชน์ของฉัน ไม่สนใจว่าคนอื่นจะได้ประโยชน์หรือไม่ แต่เวลามี ปัญหาก็มองไปนอกตัวหาเหยื่อหาแพะ หรือคนที่ฉันจะกล่าวโทษได้ แต่ไม่สนใจหันมามองตัวเอง สวนทางกับคติธรรมจากนิทานเรื่องนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น