วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

เข้าใจผืดเรื่องเจ้ากรรมนายเวร

          เดี๋ยวนี้มีความคิดแปลกๆ เกิดขึ้นซึ่งส่งเสริมความเห็นแก่ตัว  หรือทำ ให้ละเลยเพิกเฉยผู้อื่น อาตมาเคยไปเยี่ยมคนไข้คนหนึ่ง แกเป็นมะเร็งที่คอ  ก้อนมะเร็งขยายตัวเป็นก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่ สามารถนอนได้ ต้องนั่งแล้วต้องนั่งในท่าที่ไม่ธรรมดา คือเอาหน้าอกแนบกับพื้น เวลาคุยกันต้องคุยในท่านั้น ทางโรงพยาบาลก็ดูแลเอาใจใส่ดี แต่พอแกกลับไปที่บ้านกลับมีปัญหาเพราะไม่มีคน ดูแล ถามว่าแกไม่มีพี่ไม่น้องหรือ พี่ก็มีน้องก็มีแต่เมื่อพยาบาลไปถามพี่สาวว่าทำไมจึงไม่มาดูแล น้องชายเลย พี่สาวเป็นคนสนใจธรรมะ ไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งแถวนครปฐม พี่สาวบอกกับพยาบาลว่า น้องชายต้องรับกรรมของเขาเอง 
          นี่คือเหตุผลที่พี่สาวไม่มาช่วยดูแลน้องชาย พี่สาวให้ เหตุผลว่าเป็นเรื่องกฎแห่งกรรม ดังนั้นจึงไม่คิดจะไปช่วยเหลือน้องชาย นี่คือความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเรื่องกฎแห่งกรรมเป็นการใช้กฎแห่งกรรมเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธความช่วยเหลือ ทั้งๆที่คนที่เดือดร้อนก็ไม่ใช่ใคร เป็นน้องชายของตนเองลองคิดดูสิว่าถ้าชาวพุทธมีความคิดแบบนี้ทั้งประเทศจะเกิดอะไรขึน ถ้าผู้คนไม่มีน้ำใจกันขนาดนี้ เมืองไทยคงไม่ต่างจากนรก  นักปฏิบัติธรรมผู้นี้อาจจะคิดว่าการไปดูแล น้องชายเป็นการแทรกแซงกรรม นั่นคือการเข้าใจที่ผด เพราะว่ากฎแห่งกรรมไม่มีใครแทรกแซงหรือละเมิดได้ แต่ขณะเดียวกันนั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะช่วยคนอื่นที่ตกทุกข์ได้ยากไม่ได้ ในทาง ตรงกันข้ามถ้าหากว่าเราละเลยที่จะช่วยเขา ก็แสดงว่าเรากำลังสร้างกรรมใหม่ซึ่งเป็นอกุศลกรรมคนทุกข์ต่อหน้าแล้วเราไม่ช่วย นั่นก็คือการสร้างกรรมที่ไม่ดี  ต่อไปกรรมนั้นก็จะส่งผลสะท้อนย้อนกลับมาที่ตัวเราเอง เช่น พอถึงคราวที่เราเจ็บป่วยหรือประสบเคราะห์ร้ายก็จะไม่มีใครมาช่วยเราอาตมาสังเกตว่าคนที่คิดแบบนี้นับวันจะมีมากขึ้นในหมู่ชาวพุทธ มีความคิดหนึ่งคล้ายๆกันและกำลังแพร่หลายมากขึ้นก็คือ ความคิดที่ว่าเวลาเห็นใครเดือดร้อน อย่าไปช่วยเขานะ ถ้าช่วยเขาให้พ้นทุกข์ หรือรอดชีวิต ประเดี๋ยวเจ้ากรรมนายเวรของเขาจะมาเล่นงานเราแทน 
          หากคนไทยมีความคิดแบบนี้มากมาย บ้านเมืองก็จะเต็มไปด้วยคนแล้งน้ำใจสนใจแต่ตัวเอง นั่นไม่ใช่เป็นจุดมุงหมายของกฎแห่งกรรมที่พระพุทธเจ้าสอน พระพุทธเจ้าสอนกฎแห่งกรรมเพื่อส่งเสริมให้คนทำความดี ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเกื้อกูลต่อกัน และยังเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัวด้วย ตัวอย่างมีมากมายในชาดกซึ่งเป็นเรื่องของพระโพธิสัตว์ที่เสียสละเพื่อผู้อื่น จนแม้แต่สละอวัยวะหรือสละชีวิตให้ก็มี ที่จริงไม่ต้องดูอื่นไกล พระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น