วันหนึ่งๆ เราให้เวลากับร่างกายเยอะมาก อย่างน้อย ๘ ชั่วโมงต่อวัน หมดไปกับการทำมาหากิน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปเพื่อหาวัตถุมาสนองความต้องการของร่างกายหรือปรนเปรอร่างกาย เช่น หาอาหาร ซื้อเสื้อผ้า ซื้อรถยนต์ ผ่อนบ้าน แม้เลิกงานแล้วก็ยังใช้เวลาไม่น้อยไปกับการจับจ่าย ซื้อของเพื่ประโยชน์แก่ร่างกาย แม้แต่เวลานอน เราก็ใช้ไปกับการพักผ่อนร่างกาย ส่วนใจไม่ค่อย ได้พัก ส่วนใหญ่หลับแล้วก็ยังฝันต่อ เรียกว่ากลางคืนฝัน กลางวันฟุ้ง เราเคยถามตัวเองไหมว่าวันหนึงๆเราให้เวลากับจิตใจเท่าไหร่ เราอาบน้ำทุกวันวันละ ๒-๓ ครั้ง ชำระร่างกาย รวมแล้วนานเป็นชั่วโมง แต่เราเคยให้เวลาในการชำระใจบ้างหรือไม่ เรากินอาหารบำรุงกายวันละหลายมื้อ แต่อาหารใจเรา เคยให้ไหม ถ้าคำนวณดูแล้วจะพบว่าวันหนึงๆ เราให้เวลากับร่างกายของเราเยอะมาก เรียกได้ว่าวันหนึ่งเราให้เวลาอาจจะถึง ๒๓ ชั่วโมง สำหรับร่างกายตอบสนองความต้องการของร่างกาย ปรนเปรอร่างกาย รวมทั้งปรนเปรอตา หู จมูก ลิ้น ส่วนใจนั้นเราไม่ค่อยได้มีเวลาให้เลย นั่นคือ ความไม่สมดุลอย่างหนึงในชีวตของเรา จึงจำเป็นที่เราจะต้องหันมาให้เวลากับจิตใจของเรามากขึ้น อาหารกายมีกินแล้วแต่อย่าลืมอาหารใจ ชำระกายก็ถูกต้องดีแล้ว แต่อย่าลืมชำระใจ เรามีเวลาพักกายแต่อย่าลืมเวลาพักใจด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น