นั้น ‘ทำกับคุณอยำ่งไร’ หรือ ‘ทำให้คุณเกิดความรู้สึกแบบไหน’ นั่นเอง
เมื่อให้ ‘เล่ารายละเอียด’ เกี่ยวกับใคร จริงๆคือให้สาธยายว่าคุณ
‘คิดถึงความเป็นเขา’ตรงไหนบ้ำง หรือเผลอๆก็ ‘สันนิษฐานว่าน่าจะเป็น’
อยำ่งนี้หรืออย่ำงไหน
ใครที่คุณไม่รู้จักดี แต่มีความหมั่นไส้กับการรู้เห็นอะไรบางส่วน
หากอยู่ในที่ที่อนุญาตให้พูดเต็มเหนี่ยว มีเท่ำไรยิงหมดแม็ก ไม่ต้องรับ
ผิดชอบว่ำพดูผิดหรือถูก อยากใส่สีตีไีข่แค่ไ่หนไม่ต้องยั้ง คณุจะรู้สึกคันไม้
คันมือคันปาก อยากกระหน่ำให้สุดหลอดไหม?
นี่คือความจรงิ คนเราสนุกกับการพูดถึงคนอื่นที่รู้จะกันแบบครึ่งๆ
กลางๆ หรือไม่ก็เมามันกับการลงรายละเอียดเท่าที่อยากจำไว้เม้าท์
คณุไม่มีทางเอ่ยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับใครได้ครบทั้งหมด ตอนพูดคุณ
อาจรู้สึกวำ่ พูดเท่าที่นึกได้ หรือแค่พูดตามอารมณ์พาไปแบบผ่านๆ แต่
ตอนเสียงพดูของคุณลอยลมไปถีงูเูาำ เขาอาจรู้สึกว่าคุณใจแคบมาก ไม่
เคยรู้จักตัวจริงของเขาเลย แต่กล้าวิจารณ์ซะขนาดนั้น
เมื่ออาศัยใจของคุณเองเป็นแว่นส่องใจมนุษย์ทั้งหลาย...
เมื่อทบทวนว่าตัวคุณเองก็มีเวลาน้อยในการทำความรู้จักคน...
เมื่อเข้าใจสาเหตุว่าเหตุใดคุณเองจึงด่วนตัดสินคนอื่นได้...
เมื่อนั้น คุณจะให้ความสำคัญกับ ‘เสียงลอยลม’ น้อยลงมาก ไม่
วำจะลอยมาแบบต่อหน้าหรือลับหลังก็ตาม!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น