วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

การสร้างกำลังใจให้ตนเอง

หลายคนเคยท้อแท้กับชีวิต เคยเบื่อหน่ายกับความจำเจของชีวิต บางคนคิดว่าเราก็ขยัน เราก็ไม่ได้เกเร แต่ทำไมชีวิตมันยังไม่ดีขึ้น บางคนคิดแม้กระทั่งไม่อยากทำดีเสียแล้ว เพราะทำดีความดีมันไม่เคยตอบแทนให้สักที บางคนถึงขนาดคิดสั้นกันไปเลยก็มี

มามองดูตัวเอง เราก็เคยท้อแท้ เคยเบื่อหน่าย เคยคิดว่าเราก็เป็นคนดี เราก็ขยัน ทำไมชีวิตมันไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังล่ะ  เชื่อว่าหลายๆคนก็คงเคยเป็นแบบนี้

ทีนี้ ครั้งหนึ่งระหว่างดูโทรทัศน์ก็เปิดไปเจอรายการหนึ่งที่ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป ชีวิตก็เปลี่ยนไป แม้การเปลี่ยนแปลงจะไม่ได้ทำให้ชีวิตที่เป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก แต่ก็ทำให้จิตใจดีขึ้น สงบมากขึ้น มองโลกในแง่ดีมากขึ้น

รายการดังกล่าวนั้น เล่าเกี่ยวกับชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งอาศัยกับน้องสาว ไม่ใช่สิ เธอดูแลน้องสาวมากกว่า เพราะพ่อแม่เธอเสียไปนานแล้ว ที่สำคัญเธอและน้องสาวของเธอ เป็นคนพิการแขนขาลีบ กระดูกโค้งงอผิดรูป ทำให้การเคลื่อนไหวทำไม่ได้ เดินไม่ได้ ทำได้แค่เหมือนการคลาน....

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าร่างกายของเธอ ก็คือ เธอเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดี คำพูดของเธอแค่คำพูดเดียว มันเปลี่ยนโลกของเธอไปได้ คำพูดที่ว่านั่นคือ เกิดมาแล้วนี่ ก็ทำชีวิตให้มันมีความสุขสิ ทำยังไงอ่ะเหรอ ก็ใช้ชีวิตปกติ ทำมาหากินตามสภาพที่เราสามารถทำได้ (ซึ่งเธอและน้องสาวทำงานด้วยการถักโครเชตุ๊กตา และงานประดิษฐ์ประดอย) อย่าไปมองคนอื่นสิ ถ้ามองคนอื่นที่ดีกว่าเรามากๆ เราก็ทุกข์น่ะสิ 

แม้คำพูดเหล่านี้มันจะเป็นคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ แต่การที่มาเห็นและได้ยินจากปากคนที่ด้อยกว่าคนอื่น ด้อยกว่าทั้งร่างกายและวิถีชีวิต  ทำให้คนที่มีร่างกายปกติ มีหน้าที่การงาน มีครอบครัว และมีโอกาสที่ดีมากว่าเธอหลายเท่า ต้องหันกลับมาคิดไตร่ตรองว่า เธอและน้องสาวควรจะเป็นคนที่มีความทุกข์มากกว่าเราเสียอีก แต่ทำไมดูเธอมีความสุขเสียจริงๆ หันกลับมามองตัวเรา กลับเป็นตัวเราและอีกหลายๆคนที่ดีกว่าเธอทุกๆด้าน สร้างความทุกข์ขี้นมาเองทางความคิด ทั้งๆที่ความทุกข์นั้นทุกคนมีอยู่แล้ว แต่เป็นใครต่างหากที่นำมันขึ้นมาคิดให้ทุกข์มากยิ่งขึ้น แต่เธอและน้องสาวเธอนำความทุกข์ที่มี นำปมด้อยที่มีปรับเปลี่ยนมาเป็นความสุขเสียอย่างนั้น

ไม่พ้นคำสอนของพระพุทธเจ้าในการกำจัดความทุกข์ทิ้งไป  ต้นเหตุแห่งทุกข์คืออะไร ก็กำจัดมันออกไป แล้วเราก็จะพบกับทางสว่างของชีวิต...ไม่เชื่อลองเปลี่ยนความคิดดู ตัดต้นเหตุแห่งทุกข์ออกดู...แล้วค่อยมาคุยกันใหม่...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น