ในขณะที่ผมยืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายรถประจำทางแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขณะนั้นมีผู้คนที่รอรถอยู่ 2-3 คน รวมทั้งผมด้วย ช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 19.00 น. ฟ้ามืดแล้ว แต่อาศัยยังคงสว่างด้วยแสงไฟจากเสาไฟและไฟจากป้ายรอรถประจำทาง
หลังเลิกงานก็จะเป็นอยู่แบบนี้ประจำ ช่างจำเจเสียเหลือเกิน คิดอะไรในใจไปเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นก็หันหน้าไปทางซ้ายมือ ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งอายุอานามก็คงราวๆยี่สิบต้นๆ แต่งตัวธรรมดาๆ ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร (ในยามค่ำเช่นนี้)
เหลียวหน้าไปทางขวาไม่มีใคร หันหลังกลับไปมอง ก็เห็นผู้ชายสองสามคน คนนึงนั่ง คนนึงยืน นึกในใจ....อืมม..เขาคงรอรถกลับบ้านเหมือนกับเราน่ะแหละ...
สักพัก...ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ทางซ้าย กับ ผม ก็บังเอิญหันหน้ามามองกันโดยไม่ได้นัดหมาย ชายหนุ่มยิ้มมุมปากให้ แต่ผมกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น...
ฉับพลัน..เท่าความคิด...ผมก็คว้าข้อมือชายหนุ่มคนนั้น (ซึ่งตัวเล็กกว่าผม ผมจึงกล้า) แล้วพูดออกไปดังๆ (ให้เหมือนที่พวกตำรวจสายสืบกำลังชาร์จเข้าจับผู้ต้องหา เพื่อใช้เสียงดังข่มขู่ไม่ให้คนร้ายต่อสู้และให้เกิดความหวาดกลัว
"เฮ้ย...เอาโทรศัพท์กูคืนมาเลย หนอยๆ...จะล้วงคองูเห่าเหรอ เร็ว..เอาคืนมาเดี๋ยวนี้"
"อะไรๆ อยู่ดีๆก็มายัดข้อหากันซะแล้วพี่...ไม่มี ไม่ได้เอาไป.." ชายหนุ่มคนนั้นตอบกลับอย่างตกใจ
"งั้นขอค้นตัว" พูดแล้วก็ไม่รอให้เขาอนุญาต แต่ค้นเท่าไรก็ไม่พบโทรศัพท์ของผม ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาทันที อ้อ..สงสัยมันทำกันเป็นกระบวนการแน่ ประมาณว่า ล้วงโทรศัพท์ไปแล้ว ส่งต่อให้เพื่อนเอาไปอีกทีหนึ่ง คิดได้ดังนั้นผมจึง เอาโทรศัพท์ของคนร้ายมาเพื่อใช้โทรเข้าเบอร์ของผม
พลันนิ้วก็กดเบอร์โทรของผมทันทีไม่รอช้า ปรากฏว่า มีเสียงเรียกด้วยครับ คิดในใจ..หืม..คงแอบดูอยู่อ่ะสิ แบบว่าไม่ทิ้งเพื่อน รอไปพร้อมกันล่ะสิ ยิ่งคิดยิ่งโมโห....ฉับพลันนั้นเอง....
มีคนกดรับโทรศัพท์ที่ผมโทรเข้าไป ไม่ต้องรออะไรแล้วครับ.... ผมรีบแย่งพูดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเดือดดาล
"เอาโทรศัพท์กูคืนมาเลยมึง อยากมีเรื่องใช่มั้ย ไอ้เวรตะไลเอ๊ย..."
สิ้นเสียงคำขู่ของผม...
"โหย แค่นี้ก็ต้องขู่ต้องด่ากันด้วยเหรอไอ่แก่ ลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านยังไม่รู้ตัว หลงๆลืมๆแล้วนะ กลับมารีบกินยาแล้วเข้านอนเลยนะไอ้แก่"
??????? 555555